ความเชื่อใจนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้เราหรือคนที่เราคบเป็นแฟนด้วยอยู่นั้นตัดสินใจว่าจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตหรือไม่ และสิ่งที่จะทำให้เกิดความเชื่อใจขึ้นมาได้ก็คือการไม่มีความลับซึ่งกันและกัน เพราะการปิดบังเรื่องบางเรื่องหรืออาจจะหลาย ๆ เรื่องนั้นถือเป็นการบ่งบอกว่าเขาไม่สามารถเชื่อใจเราได้เต็มร้อยอีกต่อไป แต่ในชีวิตจริงสมัยนี้ใช่ว่าการพูดทุกเรื่องออกมานั้นจะทำให้เกิดความเชื่อใจหรือช่วยให้ความรักยืนยาวเสมอไป ดังนั้นเราจะมาดูพร้อม ๆ กันเลยว่ามีเรื่องไหนบ้างที่ควรเก็บเอาไว้อย่าพูดออกไปจะดีกว่านะครับ
- เรื่องแย่ ๆ ในอดีต
บางครั้งการพูดอะไรที่ไม่ช่วยให้เราดูดีขึ้นอย่างเคยไปแย่งแฟนใครมาบ้าง เคยตบตีกับใคร เคยทะเลาะกับคนใหญ่คนโต หรือเคยทำผิดกฎหมายมาก่อน อะไรพวกนี้เป็นสิ่งที่เราควรจะเหยียบเอาไว้เก็บเป็นความลับกับเราไปตลอดจะดีที่สุดครับ โกหกไปบ้างก็ได้กับเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องตลกสมัยเด็ก ๆ มันก็อีกอย่างนึงเพราะจะช่วยเพิ่มความน่าเอ็นดูให้เราได้อีกด้วย - เงินเดือนและหนี้สิน
ถ้าเรายังไม่มันใจว่าจะแต่งงานอยู่กินกับคนคนนี้ไปตลอดชีวิตล่ะก็ การรายงานเรื่องเงินอยู่ตลอดนั้นไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเท่าไหร่ แต่ถ้าแต่งงานกันแล้วใช้กระเป๋าเงินเดียวกันก็ควรจะคุยกันหน่อย แบ่งให้ชัดเจนว่าจะใช้จ่ายอะไรยังไง อย่าให้เกิดปัญหาใช้เงินเกินลิมิตขึ้นมาทีหลังและถ้าใครมีหนี้ที่พอเคลียร์ไหวก็ควรจัดการซะ แต่ถ้าไม่ไหวก็ช่วยกันหาทางออกจะดีที่สุดครับ - ปัญหาในบ้าน
ตอนที่ยังเป็นแฟนกันอยู่นั้นถ้ามีปัญหาอะไรในครอบครัวก็อย่าเพิ่งเอาไปบอกอีกฝ่ายครับ รอให้ได้เป็นครอบครัวเดียวกันก่อนให้อีกฝ่ายมาสัมผัสความจริงเองโดยเฉพาะเรื่องในบ้าน เพราะอีกฝ่ายอาจจะมองว่าบ้านเรามีปัญหาไม่น่าอยู่และอาจดูถูกครอบครัวเราอีกด้วย - เคยเย็ดกับใครบ้าง
ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นคนเริ่มถามเองก็ไม่มีความจำเป็นที่เราจะโพล่งออกไปสาธยายให้เขาฟังครับ ว่าเราเคยผ่านเรื่องเย็ดกับใครมาบ้าง เย็ดกันเด็ดสะเด่าพิสดารพันลึกแค่ไหน เคยเข้าประตูหลังหรือเคยเล่นเซ็กส์แบบมิสเตอร์เกรย์ แน่นอนว่าอีกฝ่ายอาจไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้เท่าไหร่แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพรีเซนต์ว่าตัวเองเก่งเรื่องเย็ดขนาดนั้นครับ เพราะอีกฝ่ายอาจฝืนตัวเองจนเซ็กส์พังเอาได้นะ - แอบไปดูหนังมาก่อนแล้ว
อันนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อเป็นหนังเรื่องที่สัญญาว่าจะไปดูด้วยกันเท่านั้นครับ เพราะเมื่ออีกคนรู้แล้วว่าเรื่องเป็นยังไงแทนที่จะสนุกไปด้วยกันก็กลายเป็นหมดสนุกไปเสียอย่างนั้น ในเมื่อรับปากแล้วก็ต้องไปดูด้วยกันครับแต่ถ้ามันอดใจไม่ไหวจริง ๆ ล่ะก็ ต้องเก็บเงียบเอาไว้แล้วก็ไปดูกับคนรักอีกรอบโดยห้ามทำว่าเคยดูแล้วเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นล่ะก็เป็นวันที่ไม่ดีสำหรับคุณแน่ ๆ - ครอบครัวอีกฝ่าย
อันนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ครับยิ่งถ้าเป็นตอนที่ไปเจอครอบครัวของอีกฝ่ายเป็นครั้งแรกแต่เราดันไม่ชอบครอบครัวเขาหรือเธอขึ้นมาด้วยล่ะก็ แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจปรึกษากับแฟนได้แต่ไม่ใช่ด้วยการพูดตรง ๆ ครับ ควรตั้งสติและมองที่ตัวเองก่อนว่าสามารถปรับตัวตรงไหนได้บ้าง ถ้ายังไงก็ไม่โอเคก็ต้องคิดแล้วว่าจะคบกันต่อมั้ย จะสามารถรับมือกับปัญหาที่จะตามมาในอนาคตได้หรือเปล่า ของแบบนี้ต้องดูกันยาว ๆ ครับ